ปัญหาระดับชาติของสาวออฟฟิศอย่างเรา ๆ จะมีเรื่องอะไรสร้างความวุ่นวายได้เท่าปัญหา ปากแห้ง ปากแตก ทำยังไงก็ไม่หาย ทาลิปอะไรก็เอาไม่อยู่ บางอันเอาอยู่แป๊บเดียว หยุดได้แค่ชั่วคราว ปัญหาแบบนี้รอช้าไม่ได้นะจ๊ะสาว ๆ เรามีวิธีแก้มาฝาก มาดูกันว่าทำยังไงถึงจะหาย!
ปากแห้งเกิดจากอะไร?
ก่อนจะรู้วิธีแก้ เราต้องรู้สาเหตุก่อนว่า ปากแห้ง เกิดมาจากอะไร จริง ๆ แล้ว ภาวะปากแห้ง ก็คืออาการที่ต่อมน้ำลายของเราเนี่ย ไม่สามารถผลิตน้ำลายเพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากได้ตามปกติ ซึ่งเจ้าอาการที่ว่านี้ เกิดมาจากหลายปัจจัยด้วยกันนะคะสาว ๆ มาเช็คลิสต์กันก่อนว่า เราประสบกับปัจจัยตัวไหนบ้าง แล้วจะรักษา หลบหลีกอะไรยังไง เราจะพาไปดูกัน!
- สภาพอากาศ
- แสงแดด
- เลียริมฝีปาก
- ขาดสารอาหาร
- เลือกลิปสติกผิด
พร้อมแล้วไปเริ่มที่สาเหตุแรกกันเลย
อากาศ
สาเหตุหลักอันดับต้น ๆ ของอาการปากแห้ง ปากแตก เกิดมาจากสภาพอากาศรอบ ๆ เรานี่แหละค่ะ เราจะสังเกตได้ว่าเวลาหน้าหนาว อากาศเย็น ๆ ลมพัดแรง ๆ มักจะทำให้ปากแห้งบ่อยครั้ง เพราะลมแรงนั่นแหละค่ะ ที่เป็นตัวพัดความชุ่มชื้นไปจากริมฝีปากเรา
แสงแดด
นอกจากนี้ไม่ใช่แค่ลมเด้อจ้าที่นำพาความชุ่มชื้นไปจากริมฝีปากของเรา รังสีอัลตร้าไวโอเลตจากแสงแดดเองก็ด้วย โดนแสงแดดนาน ๆ ก็นำมาสู่ภาวะปากแห้งได้ รู้แล้วหลบ อย่าเผชิญโดยไม่จำเป็น!
เลียริมฝีปาก
ปัจจัยที่สองที่ตัวจี๊ดเลย! สาวออฟฟิศอย่างเรา ๆ นั่งทำงานพลางเลียปากไป เม้มปากไปอีกนะบางทีเนี่ย บางทีเครียด ๆ ก็เผลอทำด้วยไม่รู้ตัว เพราะคิดว่าน้ำลายจะทำให้ปากชุ่มชื้น แต่ผิดจ้า! เพราะเจ้าเอนไซม์ที่มาโดนริมฝีปากจากการที่เราเลียปากเนี่ยทำให้ริมฝีปากเราสูญเสียความชุ่มชื้นไปโดยไม่รู้ตัวนะ เพราะฉะนั้น อย่าทำ!
ขาดสารอาหาร
อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ความนุ่มชุ่มชื้นหายไปก็คือการขาดสารอาหารนั่นเอง! อะ รู้อย่างนี้ต้องเช็คกันหน่อยแล้วล่ะ ว่าขาดสารอาหารตัวไหนอะไรยังไง หลายคนคงเคยได้ยินเรื่อง โรคปากนกกระจอก หรือ โรคลักปิดลักเปิด กันแล้วเนาะ อย่างแรกเนี่ยคือเราขาดวิตามินบี ซึ่งทำให้ปากแห้ง อย่างหลังเป็นเรื่องของวิตามินซี ส่วนจะหาอาหารที่มีวิตามินเหล่านี้ได้จากไหน ไว้บทความหน้าเราจะหยิบเคล็ดลับ มาฝากกันน้า
เลือกลิปสติกผิด
อันนี้ก็สำคัญมากเลยนะสำหรับสาวออฟฟิศ ผู้ที่ออกจากบ้านด้วยหน้าสดไม่ได้อย่างเรา ๆ อย่างน้อยที่สุดก็คือต้องได้แต้มลิป ลงบนริมฝีปากสักหน่อยหนึ่งให้พอชื่นอกชื่นใจว่า เออ! ได้ทาลิปแล้วโว้ย ออกจากบ้านได้! แต่สาว ๆ อย่างเรา ๆ ก็มักจะเลือกลิปสติกที่มีสีสวย โดยโนสนโนแคร์ในเรื่องของส่วนผสม จุดนี้อยากจะเน้น ๆ กันนะจ๊ะว่าอย่าเน้นแต่สีสวยโดนใจ กลิ่นหอมถูกจริตอย่างเดียว ต้องดูส่วนผสม ให้เน้นวัตถุดิบทางธรรมชาติด้วย จะได้ใช้ได้ยาว ๆ อยู่ด้วยกันไปนาน ๆ แบบไม่มีแพ้แน่นอน!
อยากหายปากแห้งต้องทำยังไง?
หลังจากรู้แล้วว่าปากแห้งเกิดจากอะไรบ้าง (ปล. สาเหตุที่เราลิสต์มาให้นี้ เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่นำมาสู่อาการปากแห้งเท่านั้นนะจ๊ะ สาเหตุอื่น ๆ อื่น ๆ ยังมีอีก) ส่วนตอนนี้ยังไม่อยากให้ทราบสาเหตุ แต่ไม่รู้วิธีแก้ ก็เลยอยากให้แวะมาอ่านวิธีแก้ไว้ช่วยเซฟชีวิตสาวออฟฟิศกันก่อน!
- หาต้นเหตุให้เจอ
- ดื่มน้ำเปล่าเป็นประจำ
- ทาลิปมันสม่ำเสมอ
- เช็ดริมฝีปากด้วยน้ำอุ่นผสมเกลือ
- สครับริมฝีปากบ้าง
- เช็ดริมฝีปากด้วยน้ำผึ้ง
- เลือกทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน
1. หาให้เจออะไรคือต้นเหตุ
จากสาเหตุที่เราลิสต์มาให้ข้างบนนี้ ให้สาว ๆ ลองหาสาเหตุก่อนว่า ไอ้อาการปากแห้งของตัวเราเนี่ยเกิดจากอะไร ปัจจัยตัวไหน พอรู้แล้วเราจึงจะยอมให้ไปขั้นต่อไปนะ
2. ดื่มน้ำให้มาก ดื่มจนติดเป็นนิสัย
การดื่มน้ำเปล่าเป็นอะไรที่เราทุกคนต่างร่ำเรียนมาว่า มีประโยชน์ต่อร่างกายแค่ไหน แต่ด้วยความนิสัยไม่ดีของตัวเราเองที่มักจะคิดว่า ไม่เป็นไรหรอกน่า เดี๋ยวค่อยดื่มก็ได้ บลา ๆ ๆ ๆ นั่นคือจุดกำเนิดของการนำมาซึ่งการปากแห้งเด้อ อย่าละเลยจุดเล็ก ๆ แบบนี้นะสาว ๆ เพราะฉะนั้น จงไม่ลืมว่าดื่มน้ำอย่างต่ำ 8-10 แก้วต่อวัน ถ้าใครไม่ชอบลุกไปเติมน้ำบ่อย ๆ เราแนะนำให้ซื้อเป็นขวดลิตร มาตั้งไว้บนโต๊ะทำงานเลย จิบได้ทั้งวันไม่ต้องลุกไปเติมให้เมื่อย (แต่ถ้ายอมเมื่อยก็ได้ลดความอ้วนไปในตัวนะ อิอิ)
อ๊ะ ๆ อีกหนึ่งจุดสำคัญอาจจะขัดใจคอกาแฟกันสักหน่อย หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มจำพวก ชา กาแฟ น้ำหวานหน่อยนะจ๊ะ เพราะนอกจากจะไม่ได้ทำให้ริมฝีปากชุ่มชื้นแล้ว ยังส่งเสริมให้แห้งได้แห้งดีอีกด้วย
3. ทาลิปมัน / ลิปบาล์ม (Lip Balm) เป็นประจำ
ทั้งหมดทั้งมวลเราจะบอกว่า สุดยอดไอเท็มที่ขาดไม่ได้ของสาวออฟฟิศ ต้องพกติดตัวทุกวันทุกเวลาก็คือ “ลิปมัน” หรือ “ลิปบาล์ม” อย่าได้ลืมเชียว เพราะนี่คือตัวช่วยชิ้นเดียวที่จะมาปกป้องริมฝีปากให้ชุ่มชื้น สุขภาพดี ราวกับไม่เคยแตกมาก่อน
4. น้ำอุ่นผสมเกลือช่วยคุณได้!
อีกหนึ่งวิธีแสนดีที่อยากแนะนำ สำหรับสาวที่ปากแห้งถึงขนาดเป็นขุย ให้ใช้น้ำอุ่นผสมเกลือป่น (ใส่เกลือป่นนิดเดียวเท่านั้น ไม่ต้องให้เค็มสะใจได้ที่กันเกินเบอร์) จากนั้นใช้สำลีชุบแล้วเอาปากคาบไว้เป็นเวลาประมาณ 3-5 นาที หรือถ้าไม่ชอบคาบก็ทาให้ทั่วริมฝีปากก็ได้นะ หลังจากทำเสร็จก็อย่าเพิ่งเลียริมฝีปากเนาะ เดี๋ยวจะได้สัมผัสไอโอดีนกันเต็มคำ
5. สครับริมฝีปาก
สาว ๆ หลายคนอาจจะยังไม่เคยสครับริมฝีปาก และมีความคิดที่ว่าจะต้องเจ็บแสบแน่นอน ช้าก่อนจ้า! เราเพียงแค่เลือกผลิตภัณฑ์ที่เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติ และถูริมฝีปากเบา ๆ ละมุนละม่อมหน่อย แค่นี้ก็เพิ่มความชุ่มชื้นได้แล้ว
6. ใช้น้ำผึ้งแท้ช่วยได้
อีกเคล็ดลับหนึ่งคือการใช้น้ำผึ้งนั่นเองค่ะ เพราะตัวน้ำผึ้งเองมีสรรพคุณในการฆ่าเชื้อโรคอ่อน ๆ จึงนำมารักษาอาการปากแห้งปากแตกได้เป็นอย่างดี แค่ใช้คอตตอนบัดจุ่มน้ำผึ้งแท้ มาทาบนริมฝีปากเป็นเวลา 10 นาที จากนั้นใช้ผ้านุ่ม ๆ ชุบน้ำอ่อนแล้วเช็ดออก วิธีนี้ไม่ขมปากด้วยนะ ต้องลอง!
7. เลือกอาหารที่มีวิตามิน
อาหารที่มีวิตามินที่เราว่านั่นก็คือ วิตามินบี ที่ขาดไปข้างบนนั้น เราสามารถไขว่คว้าหาอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบีนี้ได้ เช่น ข้าวกล้อง ผักใบเขียวเอย (บรอคโคลีนี่ก็อร่อย คะน้าก็กรุบกรอบ) วิตามินบีไม่พอนะจ๊ะ เพิ่มโยเกิร์ตที่มีวิตามินเอมาด้วยก็เลิศ! ผิวริมฝีปากกลับมาชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง สุขภาพดีแน่นอน
เป็นยังไงกันบ้างล่ะคะ พอจะไขปัญหาคาใจสาว ๆ ออฟฟิศได้บ้างมั้ย ยังไงก็ลองหยิบเอาวิธีที่เรานำมาฝากกันไปใช้ดูก่อนนะคะ อันดับแรกแนะนำให้หาสาเหตุก่อนนะ จากนั้นค่อย ๆ ดูแลกันไป อย่าลืมว่าริมฝีปากของคนเราเป็นผิวหนังส่วนที่บอบบางที่สุด ที่สำคัญคือเป็นทางผ่านให้อาหารเข้าสู่ร่างกาย ดังนั้น จุดนี้ละเลยไม่ได้เลยทีเดียว เป็นผู้หญิงอย่าหยุดสวย และอย่าลืมดูแลตัวเองเป็นอันขาด! เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ห้ามมองข้าม ความสวยสร้างได้ในทุกส่วน ยิ่งดูแลมากเท่าไหร่ ยิ่งสวยมากเท่านั้นน้า!