เคยสงสัยกันไหมว่า สมัยก่อนในยุคที่นวัตกรรมและเทคโนโลยีต่าง ๆ ยังไม่เข้ามา ผู้หญิงในสมัยนั้นเขามี เคล็ดลับความงาม ดูแลผิวพรรณ เพราะหากเคยเห็นรูปถ่ายของหญิงสาวสมัยก่อนจะเห็นได้ว่า ทั้งผิวพรรณ หน้าตา และรูปร่าง ดูงดงามไม่แพ้กับสาวยุคปัจจุบันเลย
Lovella Trendy จึงรวบรวม ‘เคล็ดลับความงาม’ สวยธรรมชาติแบบสมัยก่อน ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับปัจจุบันได้มาฝาก 😉
ล้างหน้าด้วยน้ำซาวข้าว
วิธีการดูแลผิวหน้าแบบโบราณที่ยังมีการสืบสานต่อมาถึงปัจจุบัน การล้างหน้าด้วยน้ำซาวข้าว จะช่วยบำรุงผิวหน้าให้มีความชุ่มชื่น ลดความมันบนใบหน้าได้ดี ช่วยต้านการอักเสบ ลดการเกิดสิว และช่วยลดริ้วรอย ทำให้ผิวหน้าแลดูอ่อนเยาว์ เนื่องจากในน้ำซาวข้าวอุดมด้วยอาหารผิว อย่างวิตามิน แร่ธาตุ และกรดอะมิโน ซึ่งการล้างหน้าด้วยน้ำซาวข้าว ควรเป็นน้ำจากการล้างข้าวครั้งที่ 2 หรือ 3
หน้าอังหม้อข้าว
ทริคนี้ดังมาจากคุณหวาย ปัญญ์ธิษา เลยค่ะ เธอแชร์เคล็ดลับความงามที่ทำให้ใบหน้าเรียวสวยแบบธรรมชาติ ด้วยการเอาหน้าอังหม้อข้าว หรือน้ำต้มเดือด โดยจะต้องต้มน้ำหรือหุงข้าวให้สุกจนเกิดไอน้ำ แล้วเอาหน้าไปอังไว้เหนือหม้อและใช้ผ้าคลุมศีรษะไว้ด้วย เพื่อให้ไอน้ำระเหยสู่ผิวหน้าโดยเฉพาะ ซึ่งไอน้ำจากหม้อข้าว จะช่วยลดไขมันบนใบหน้า ลดอาการบวมน้ำได้ดี และช่วยเปิดรูขุมขน ขับเหงื่อและสารพิษ เมื่อทำเป็นประจำจึงส่งผลให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น
นอกจากจะช่วยทำให้ใบหน้าเรียวสวยแล้ว การเอาหน้าอังหม้อข้าว มีประโยชน์อีกเพียบ! ทั้งช่วยกระตุ้มคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิว ช่วยเปิดรับการบำรุงผิวได้ดีขึ้น เพิ่มความชุ่มชื่น ช่วยเรื่องระบบการไหลเวียนของเลือด ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง แลดูสุขภาพดี และช่วยทำความสะอาดสิ่งตกค้างบนผิวได้เป็นอย่างดี
อาบน้ำต้มสมุนไพร
ก่อนจะมีโลชั่นหรือครีมทาผิว สาวยุคนั้นเขาดูแลผิวพรรณด้วยการอาบน้ำต้มสมุนไพร สมุนไพรหลักที่ใช้คือ ใบส้มป่อย และใบต้นเป้า ที่มีสรรพคุณทางยาในการช่วยแก้ผื่นคันและยังทำให้ผิวนุ่มเนียน และหากอยากเติมอาหารผิวเพิ่มอีก ก็สามารถผสมผสานสมุนไพรชนิดอื่น ๆ เข้าด้วยได้ การอาบน้ำต้มสมุนไพรในปัจจุบัน สามารถทำได้ด้วยตนเอง หรือสะดวกกว่านี้ก็คือ สปา เลยค่า
ขัดและพอกผิวด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติ
อยากผิวเนียนสวย ขาวผ่อง ก็ต้องหมั่นผลัดเซลล์ผิวด้วยการขัดและพอก สมัยก่อนการขัดและพอกจะใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติล้วน อย่างเช่น ขมิ้น มะขามเปียก น้ำผึ้ง ไพล ดินสอพอง ซึ่งวัตถุดิบแต่ละชนิดมีคุณสมบัติต่างกันไป ขมิ้นและไพลช่วยลดการอักเสบของผิว ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวขาวเนียนผ่องเป็นธรรมชาติ มะขามเปียกช่วยลดจุดด่างดำ ผลัดเซลล์ผิว น้ำผึ้งอุดมไปด้วยแร่ธาตุ วิตามิน และกรดอะมิโนที่ดีต่อผิว ดินสอพองช่วยลดการเกิดผื่นคัน ลดการอักเสบของสิว และช่วยลดสิวในคนผิวหน้ามันด้วย นอกจากวัตถุดิบที่เราได้หยิบมาแนะนำแล้ว ตำรับไทยยังมีสมุนไพรและวัตถุดิบจากธรรมชาติอีกมากมาย ที่สามารถนำมาขัดและพอกผิวได้
สูตรพอกผิว (อ้างอิงจากกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก)
ส่วนผสม
– ผงไพล 2 ช้อนโต๊ะ
– ผงขมิ้น 1 ช้อนโต๊ะ
– ดินสอพองสะตุ 5 ช้อนโต๊ะ (ดินสอพองสะอาด ปราศจากเชื้อ สมัยก่อนจะใส่ในหม้อดินปิดฝาแล้วนำไปตั้งไฟจนร้อน)
– น้ำผึ้งและนม สำหรับผิวแห้ง หรือ น้ำมะขามเปียก สำหรับผิวมัน
วิธีทำ
1. ผสมผงไพล ผงขมิ้น ดินสอพองสะตุ แล้วคนให้เข้ากัน
2. เติมของเหลวลงไปและคนจนเป็นเนื้อเดียวกัน แต่อย่าให้เหลวจนเกินไป
3. ขัดและพอกผิวหน้าหรือผิวกาย ด้วยการลูบไล้เบา ๆ ไม่ควรลงน้ำมือมากเกินไป
4. พอกทิ้งไว้ 15-20 นาที และล้างออกด้วยน้ำสะอาด
น้ำมันมะพร้าวเสมือนโลชั่นทาผิว
เคล็ดลับผิวเนียนสวย ไม่ได้จบแค่การอาบน้ำต้มสมุนไพรกับการขัดและพอกผิวเท่านั้น การบำรุงผิวก็สำคัญ ในสมัยก่อนเขาใช้น้ำมันมะพร้าว ที่เปรียบเสมือนโลชั่นทาผิวในปัจจุบันนั่นเอง โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาว อากาศเย็นและแห้ง ทำให้ผิวแห้งแตก การทาน้ำมันมะพร้าวจะช่วยให้ผิวชุ่มชื่น และยังมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ติดตัวอีกด้วย
นอกจากจะใช้บำรุงผิวกายแล้ว ยังนิยมใช้บำรุงเส้นผมให้นุ่ม เงางาม และในปัจจุบัน น้ำมันมะพร้าวสามารถนำมาใช้แทน Make up remover ได้ด้วย สารพัดประโยชน์มาก ๆ เป็นไอเทมที่ควรมีติดบ้านไว้เลยค่ะ
แป้งร่ำ เครื่องหอมสุดปังในสมัยก่อน
เคยได้ยินชื่อ ‘แป้งร่ำ’ บ้างไหมคะ ทางนี้ได้ยินมานาน แต่ไม่รู้ว่าคืออะไร แป้งร่ำเป็นเครื่องหอมที่สาวยุคก่อนเขาใช้ผัดหน้าให้ขาวผ่อง โดยมีส่วนประกอบจากธรรมชาติหลาย ๆ อย่าง ได้แก่ ดินสอพอง กำยาน อบเชย กานพลู เปลือกชะลูด ลูกจันทร์ น้ำตาลทรายแดง ไม้จันทร์หอม ไม้กฤษณา และชะมดเช็ด ซึ่งต้องใช้กรรมวิธีการทำที่ค่อนข้างละเอียด แต่ในปัจจุบันก็มีแป้งร่ำสำเร็จรูปออกมาจำหน่ายมากมาย ทั้งแบบบรรจุใส่ขวด ฟีลเหมือนกับแป้งน้ำ และแบบเป็นเม็ด